ชื่อที่สลักไว้ใต้หัวใจ พากย์ไทย ภาพยนต์แนว LGBTQ+ เชื้อชาติไต้หวัน Your Name Engraved Herein หรือในชื่อภาษาไทย ชื่อที่สลักไว้ใต้หัวใจ ภาพยนตร์ที่มาแรงแซงทางโค้งแบบหยุดไม่อยู่เพราะเหตุว่าถึงจะเข้าโรงฉายภายใต้วิกฤตวัววิด 19 ทุกคนล้วนเว้นระยะห่างจนกระทั่งเปลี่ยนเป็น new normal แม้กระนั้นก็ยังสามารถปัดกวาดรายได้ไปๆมาๆกกว่า 100 ล้านเหรียญไต้หวัน จนถึงเอารางวัลใหญ่อย่าง The Golden Horse Award 2020 มาได้เสร็จ ขึ้นแท่นภาพยนตร์แนว LGBTQ+ ของไต้หวันที่ทำรายได้สูงสุดตลอดไป
รีวิวภาพยนตร์ ชื่อที่สลักไว้ใต้หัวใจ พากย์ไทย
เรื่องราวของ ‘ชางเจี่ยฮั่น/อาฮั่น’ หนุ่มน้อยมัธยมปกติห้องวิทย์ แล้วก็เด็กผู้ชายชื่อพิลึก ‘เบอร์ดี้’ จากการอยู่ในสัมพันธ์เดียวกันทำให้พวกเขาคุ้นเคยกันมากยิ่งขึ้นจนถึงแปลงเป็นคู่หูและก็เริ่มปรับปรุงความเชื่อมโยงจนถึงส่งผลให้เกิดความรักที่มันมากยิ่งกว่ามิตรภาพแบบเพื่อนฝูง แม้กระนั้นความเกี่ยวพันรูปแบบใหม่นี้กลับมาพร้อมความเจ็บแล้วก็การซ่อน เรื่องราวข้างในเรื่องถูกเล่าผ่านพื้นข้างหลังในสมัยข้างหลังยกเลิกกฎอัยการศึกของไต้หวัน ที่คนภายในสังคมยังมิได้ให้การสารภาพกลุ่มชนที่มีความมากมายหลายทางเพศมากมายพอๆกับปัจจุบันนี้
ภาพยนตร์ Your Name Engraved Herein สามารถถ่ายทอดเรื่องราวทั้งปวงออกมาได้อย่างงดงามและก็ตรึงตราตลอด 1 ชั่วโมง 54 นาที ความทรงประสิทธิภาพจากบทสำหรับพูดที่พ่วงมาด้วยพื้นข้างหลังหลักของภาพยนตร์มันพาพวกเราให้ดำดิ่งไปกับอารมณ์ของผู้แสดงได้อย่างครบถ้วนบริบูรณ์
นักแสดงเบอร์ดี้ มีลักษณะนิสัยที่เต็มไปด้วยแปลกและก็บ้าระห่ำอย่างแจ่มแจ้ง เบอร์ดี้เป็นนักเรียนสายศิลป บอกประโยคจากหนัง มีอารมณ์ศิลป์(มองได้จากท่าเดินเวลาคุยกับอาฮั่น เขาจะมักจะทำท่าราวกับเต้นหรือดื้อๆไปทั่ว ไต่จับข้าวของ วิ่งบนราวบันได คิดภาพไม่ออกให้รำลึกถึง La La Land เวลาขับร้องแบบงั้นล่ะ) ถูกใจแอบลักขโมยของ สะสมโปสเตอร์หนังรวมทั้งต้องการเป็นนักประดิษฐ์ภาพยนตร์ ในเวลาที่อาฮั่น เป็นเด็กสายวิทย์มีเพื่อนที่เรียนห้องเดียวกันที่มีนิสัยต้านทานรักร่วมเพศอย่างเปิดเผย รวมกับตัวช่วงนั้นที่จะจะต้องเรียน จำเป็นต้องทำ ควรจะเป็น ตามแบบแผนของสังคมที่ผู้คนแล้วก็ครอบครัวคาดหมายให้พวกเราจะเป็น
จุดเล็กๆนี้พวกเราจะมองเห็นได้เลยว่าตัวภาพยนตร์เองก็ตั้งใจเสนอนิสัยของเบอร์ดี้ให้มีความแปลกแล้วก็ชอบทำในสิ่งที่คนไหนกันเขาไม่ทำกัน หรืออีกนัยยะเป็นเบอร์ดี้เป็น ‘เกย์’ มาตั้งแต่ต้นแต่เปลี่ยนเป็นคนหวาดกลัว ชื่อที่สลักไว้ใต้หัวใจ พากย์ไทย เป็นคนใจยักษ์ใจมาณที่ไม่กล้าบอกรักต่ออาฮั่น และก็เพราะอะไรเขาถึงหวาดกลัวรวมทั้งกระทำตัวใจจืดใจดำจังละ? อันดับแรกพวกเราก็เลยจำเป็นต้องไปดูกันที่ setting สำคัญที่ประเด็นนี้กล่าวถึงขึ้นมาเล่าราวกันก่อน
Setting ที่ประเด็นนี้จับขึ้นมาเล่น เป็นสิ่งที่ดูแล้วรู้สึกว้าวรวมทั้งอัศจรรย์ใจกับความคมคายสำหรับเพื่อการหาวิธีการนำเสนอผลงานชิ้นโบว์แดงชิ้นนี้ออกมา ซีรีส์เลือกใช้จีนไต้หวัน ในขณะที่พึ่งจะล่วงเลยการประกาศกฎอัยการศึก สมัยที่เกย์โดนใส่ร้ายว่าเป็นเชื้อไวรัส ซึ่งก็ไม่ได้มีความแตกต่างจากสังคมไทยในแต่ก่อนเท่าใดนักที่ปลูกฝังค่าความนิยมไม่ถูกๆความเลื่อมใสที่เหยเกว่า ผู้ที่ไม่ถูกเพศนั้นเป็นโรคที่เหมาะสมจำเป็นต้องได้รับการดูแลรักษา เป็นประโยคแสนร้ายกาจแต่ถ้าว่ามีอยู่จริงบวกกับพวกเราจะมองเห็นความเถื่อนของสมัยในด้านของการเช็ดกประทุษร้ายถ้าเกิดออกมาเผยรสนิยมทางเพศ และก็คนไหนกันแน่ที่ออกมาเรียกร้องสิทธิความเสมอภาคก็จะถูกตำรวจจับไปอย่างราบรื่น เสมือนเป็นมิจฉาชีพที่กระทำผิดรุนแรง
เพราะเหตุว่าค่าความนิยม ความนึกคิด ความเชื่อถือในยุคนั้นมันเป็นตัวบีบให้พวกเขาทั้งยัง 2 คนควรต้อง ‘ซ่อน’ และก็ ‘หนี’ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เบอร์ดี้ก็เลยจำเป็นต้องปฏิบัติตนใจจืดใจดำโดยการหลบหลีกหนีหัวใจตนเองโดยการเริ่มคบค้าสมาคมกับ ปันปัน เพื่อนพ้องเด็กนักเรียนหญิงเพื่อซ่อนตัวความรู้สึกที่จริงจริงของตนที่มีให้กับอาฮั่นรวมทั้งเพื่อหนีเรื่องจริงที่สังคมไม่รับ ด้วยเหตุนั้นแล้วเบอร์ดี้มิได้เป็นคนใจมาร แต่ว่าเป็นโลกต่างหากที่ใจจืดใจดำกับพวกเขา
เมื่อเดินทางมาถึงช่วงหลังของภาพยนตร์ ที่พาพวกเราเดินทางมาสู่สังคมไต้หวันในปัจจุบันที่แปลงเป็นประเทศที่เปิดกว้างในเรื่องของ LGBTQ+ เยอะที่สุดในทวีปเอเชีย เป็นชาติแรกในทวีปเอเชียที่การสมรสระหว่างคู่ชีวิตเพศเดียวกันเป็นสิ่งถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งมันต่างจากเมื่อ 30 ปีกลายราวฟ้ากับเหว และก็ผลสรุปของภาพยนตร์ประเด็นนี้ก็ทำให้พวกเราได้รับรู้ว่า “รักแรกพบของทุกคนยิ่งใหญ่ราวกับหนังฟอร์มยักษ์ ที่เมื่อเลือกที่จะรักแล้วย่อมรักไปเลวทรามนิรันด์ ตรึงตราและก็ฝังลึกเข้าไปในความจำ และไม่ว่าคนใดกันก็ไม่ได้อยากที่จะมีความรักที่จะต้องหลบ“
ความรักเหนือเวลาของ LGBTQ ที่สร้างขึ้นมาจากความจำ
หัวข้อนี้เป็นภาพยนตร์ที่ปรับเปลี่ยนมาจากความจำในตอนม. ปลายของผู้กำกับ Patrick Kuang-Hui Liu (แพทริค หลิว) ซึ่งเขาได้นำความจำนิดหน่อยที่เป็นชีวิตจริงของเขาเอง มาเป็นพล็อตของเรื่องที่บอกกล่าวความแทนความรู้สึกของเกย์ที่จำต้องต่อสู้กับทัศนคติด้านสังคม ประเด็นนี้ได้ผลการงานควบคุมภาพยนตร์ปริมาณยาวเรื่องแรกของเขา รวมทั้งสามารถปัดกวาดรายได้ไปๆมาๆกกว่า 100 ล้านเหรียญไต้หวัน จนกระทั่งเอารางวัลใหญ่อย่าง The Golden Horse Award 2020 (ม้าทอง) มาครอบครอง
เรื่องราวของ ชางเจียฮั่น/อาฮั่น (เอ็ดเวิร์ด เฉิน) รวมทั้ง หวังป๋อเต๋อ/เบอร์ดี้ (เจิง คุ้นชินฮัว) เด็กนักเรียนชาย ม. ปลาย 2 คนภายในโรงเรียนกินนอนชายล้วน ที่ได้เจอกับมิตรภาพแล้วก็รักจริงที่มีต่อกัน ท่ามกลางความเคลื่อนไหวของไต้หวันจากสังคมอนุรักษ์นิยม สู่ประเทศที่เป็นมิตรกับกรุ๊ป LGBTQ สูงที่สุดในทวีปเอเชีย ชื่อที่สลักไว้ใต้หัวใจ พากย์ไทย ภาพยนตร์เล่าย้อนไปในบรรยากาศของสมัย 1980s ที่ไต้หวันพึ่งยกเลิกกฎอัยการศึก รวมทั้งโรงเรียนกินนอนชายล้วนเริ่มเปิดรับเด็กนักเรียนหญิงเข้าห้องเรียนเป็นครั้งแรก ทำให้ความข้องเกี่ยวของทั้งสองจะต้องพบเจอกับภาวการณ์ของการตัดสินใจหลายด้าน อีกทั้งสังคมที่ความทัดเทียมรวมทั้งการยินยอมรับกลุ่มชนมากมายทางเพศยังไม่เปิดกว้างเท่าเดี๋ยวนี้ ทั้งยังการขัดกันในตนเอง เรียกว่าเป็นศึกหนักของกรุ๊ปเพศช่องทางในยุคนั้นเลยก็ว่าได้
เมื่อความรักมีการเสนอคำถาม
ภาพยนตร์สร้างเนื้อสร้างตัวละครหลักขึ้นมาเป็น อาฮั่น ชายหนุ่มถามต่อเพศสภาพการณ์ของตน เมื่อเขาเริ่มกระปรี้กระเปร่ากับ เบอร์ดี้ เพื่อนชายที่ร่วมกลุ่มโยธวาทิตร่วมกัน จนถึงแปลงเป็นเพื่อนสนิทรวมทั้งมีความรู้สึกดีๆต่อกันสุดท้าย แต่ถ้าว่า บรรยากาศของสถานที่เรียนโรมันคาทอลิกการรักเพศเดียวกันนับว่าเป็นของต้องห้าม แล้วก็หนักไปในทางไม่ถูกบาป บรรยากาศของหอนักเรียนชายที่เข้มงวดไปด้วยกฎข้อปฏิบัติ ความมุ่งหวังของครอบครัวคนจีนที่ลูกชายเป็นความหวังสูงสุดของบ้าน สภาพสังคมที่ถูกควบคุมด้วยการบ้านการเมืองตอนเบ่งบาน รวมทั้งการปฏิเสธของสังคมทำให้เบอร์ดี้อุตสาหะตีจาก แล้วก็เริ่มคบค้ากับ ปันปัน (ไม่ไม่ เฉียว) เพื่อนฝูงเด็กนักเรียนผู้หญิงร่วมกันเพื่อเปลี่ยนตัวตน
ปัญหาทารกขึ้นโดยทันทีเลยว่าเพราะเหตุไรความรักของเพศเดียวกันก็เลยเกิดเรื่องไม่ถูกบาป ในวิธีการศาสนา ประเด็นนี้ไม่ใช่แค่ผู้ชมแค่นั้นที่ตั้งปัญหาแม้กระนั้นอาฮั่น ซึ่งเป็นผู้แทนของวัยรุ่นในยุคนั้นก็ตั้งปัญหาด้วยความเจ็บ คุณถูกใจเพศหญิงได้ผมถูกใจเพศชายมิได้สินะ ความรักของคุณยิ่งใหญ่กว่าผมหรอ binsidetv ความรักของคุณกับผมมันแตกต่างที่ไหน อาฮั่นใส่อารมณ์ด้วยประโยคนี้กับ ป๋าโอลิเวอร์ (Fabio Grangeon) ที่เป็นอีกทั้งนักบวชแล้วก็คุณครูผู้ควบคุมวงดนตรี เมื่อเขามายอมรับความรู้สึกในใจ
ภาพยนตร์ประเด็นนี้เริ่มด้วยข้อพระคู่มือ song of solomon 8:7 (เพลงโซโลมอน บทที่ 8 ข้อที่ 7 ) “น้ำมากมายไม่บางทีอาจดับความรักให้มอดเสียได้ หรืออุทุกธารทั้งหลายแหล่ไม่บางทีอาจท่วมความรักให้สำลักตายเสียได้ ถึงแม้ว่าใครจะเอาสินทรัพย์ในบ้านของตัวเองทั้งหมดทั้งปวงมาแลกเปลี่ยนกับความรักนั้น คนนั้นจะได้รับความสบประมาทจากคนทั้งหลายแหล่เป็นอย่างยิ่ง” พระผู้เป็นเจ้ามิได้ขัดขวางความรักจ้ะ แม้กระนั้นท่านพูดว่า ไม่มีอะไรจะสวยงามพอๆกับการแสดงความรัก แต่ว่าความอุตสาหะที่จะซื้อความรักด้วยทรัพย์สิน เป็นสิ่งที่น่าดูหมิ่น ความรักซื้อมิได้แล้วก็บังคับมิได้จ้ะ มันไม่จีรัง
ซึ่งบทอุตสาหะจะสื่อให้พวกเรารู้เรื่องในพระหนังสือข้อนี้ เพราะว่าท่านทรงเป็นความรัก ด้วยเหตุนี้ความรู้ความเข้าใจในข้อพระหนังสือ ชอบถูกแปลความหมายโดยมนุษย์ไปตามความรู้ความเข้าใจของแต่ละคนได้หลายทาง ซึ่งความรู้ความเข้าใจของผู้กำกับเขาก็แปลความหมายไปทางนี้นะคะ จากการติดต่อสื่อสารตลอดทั้งเรื่องไปจนกระทั่งตอนสุดท้าย ด้วยอารมณ์ของภาพ ด้วยดนตรีประกอบที่อบอวลไปด้วยบรรยากาศเพลงแจ๊สเบาๆสร้างความรู้สึกให้อุ่นลึกเข้าไปอีก หนังบากบั่นสื่อให้มองเห็นอีกว่าหัวข้อนี้มันเป็นได้ยากซะอย่างยิ่งในช่วงนั้น ก็แสดงว่าไม่มีทางเป็นไปได้นั่นแหละ เพราะว่าหากแม้สังคมจะกล่าวว่าประเทศชาติได้แปรไปแล้ว แต่ว่าความเป็นจริงแล้วมันไม่เคยเปลี่ยนแปลง
เมื่อความรักอยู่บนความไม่รับของสังคม
คนใดกันที่มีความประพฤติเบี่ยงเบนทางเพศย่อมกลายเป็นเป้าของสังคม จำเป็นต้องพบเจอกับการเช็ดกกลั่นแกล้ง เหยียดหยาม นี่เป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในสังคมยุคนั้น ทำให้อาฮั่นแล้วก็เบอร์ดี้จำเป็นต้องขัดขวางความรู้สึกของตนเอาไว้จากสังคมรอบๆ ด้วยเหตุว่าในสมัยนั้นการอ้อนวอนสิทธิเพื่อคู่รักเพศเดียวกัน ไม่อาจจะเกิดขึ้นได้เลยในสังคมไต้หวัน ซึ่งว่ากันตามจริงแล้ว ก็เป็นแบบงี้กันทั่วทวีปเอเชียทิศตะวันออกนั่นแหละนะ
แม้กระนั้นความรู้สึกที่ถูกกดทับความจำเป็น ได้ถูกเทไปที่อาฮั่นให้จะต้องสวมบทหนัก เพราะว่าจำต้องหามความรู้สึกของตนเองที่เผยไมได้ ชื่อที่สลักไว้ใต้หัวใจ พากย์ไทย ทั้งๆที่ต้องการเผยใจจะขาดเอาไว้เพียงคนเดียว เบอร์ดี้เลือกที่จะจัดแจงกับความรู้สึกของตนด้วยการปกปิดตัวตนไปในทางที่ตรงกันข้ามกับหัวใจ ซึ่งผลของมันก็จะออกมาในแบบอย่างที่รู้จักกันดีในสังคมปัจจุบันนี้
ติดต่อสื่อสารแจ่มกระจ่างที่ภาพยนตร์ทำให้พวกเรามองเห็นอีกด้านหนึ่งก็คือ สองคนนี้เขารักกันอย่างยิ่ง ด้วยความเกี่ยวพันที่ลึกซึ้ง คร่ำครวญหาขึ้นเรื่อยแม้กระนั้นการจะดำรงชีวิตอยู่ในสังคมยุคนั้นถัดไปได้อย่างธรรมดาสุข การเอาอย่างหัวใจตนเองยังไม่ใช่คำตอบ ทำให้คนหนึ่งจำต้องเลือกทางเท้าชีวิตที่สังคมเห็นด้วยแม้กระทั่งมีคนหนึ่งพึงพอใจสลาย รวมทั้งทำเป็นเพียงแต่เก็บความรู้สึกนั้นไว้ส่วนลึกของหัวใจในจุดนี้ผู้ใดที่เป็น LGBTQ แล้วก็ผ่านขณะพวกนั้นมาไม่แตกต่างกับนักแสดง การันตีว่ามีน้ำตาไม่ถูกกันหลายไห
กับจุดสิ้นสุดที่รับรองว่า ความรักไม่มีทางจบ
ภาพยนตร์พาพวกเราเดินทางมาถึงตอนสุดท้ายซึ่งเป็นช่วงปัจจุบันที่ อาฮั่นแล้วก็เบอร์ดี้อยู่ในกลางคน โดยทิ้งเนื้อหาก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา ภายหลังที่สองคนตัดสินใจกับชีวิตของตนไปทั้งปวง เป็นไม่เล่าแล้ว ปลดปล่อยให้พวกเราน้ำตาแตกแล้วแก่เลย เรียกว่ามาขมวดจบในส่วนท้ายจึ๋งเดียว เพื่อเป็นเครื่องการันตีว่าความรักเป็นสิ่งงดงาม รวมทั้งทำให้ประโยคที่ว่า “รักแรกพบของทุกคน ยิ่งใหญ่เท่าๆกับหนังเรื่องดังนั่นแหละ” สื่อความหมายมากขึ้นไปอีก ในจุดนี้รู้เรื่องผู้กำกับเลยจ๊ะ ว่าเขาจำเป็นต้องผ่านขณะที่อึดอัดใจมานานแค่ไหน กว่าจะมีชีวิตอยู่ในโลกที่เปลี่ยนไปแล้วรวมทั้งเป็นไปในแบบที่พวกเขาในสมัยก่อนไม่เคยจะรำลึกถึง
การเล่าเรื่องทั้งสิ้นของภาพยนตร์หัวข้อนี้ จำต้องบอกเลยว่าเป็นไปอย่างกระชับแต่ว่าก็ไม่ยินยอมทิ้งเนื้อหาด้านความรู้สึกอะไรก็แล้วแต่เลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งความรู้สึกในวัยเด็กที่บากบั่นเน้นย้ำและก็สื่ออย่างตั้งใจเลยว่า ฉันอึดอัดนะ ฉันโดนกดความรู้สึกเอาไว้ด้วยสภาพสังคมนะ ฉันต่างก็ต่อสู้กับมันด้วยแนวทางของฉัน มองดูความรักก่อนหน้าที่ผ่านมาของฉันสิว่ามันงามแล้วก็เจ็บปวดแค่ไหน ฉันผ่านมันมาด้วยความยุ่งยาก แล้วมองเห็นไหมว่าท้ายที่สุดความรักของฉันยังคงอยู่ แม้กระนั้นฉันกลับไม่เคยได้จับใจกับมันขณะนั้น รวมทั้งฉันก็ยังไม่เคยลืม
ฉากแต่ละฉากที่ภาพยนตร์ติดต่อออกมา สามารถเรียกน้ำตาแล้วก็ความรู้สึกร่วมออกมาได้อย่างง่ายดายในส่วนนี้ดาราแล้วก็บทมีส่วนทำให้มีความรู้สึกนั้นเป็นอันมาก แม้ว่ารายละเอียดจะเน้นไปที่ช่วงชีวิตวัยเด็ก ชื่อที่สลักไว้ใต้หัวใจ พากย์ไทย โดยปลดปล่อยให้อีกตอนวัยหนึ่งเปลี่ยนเป็นข้อสรุป ก็นับว่าเป็นปัญหาที่พวกเราทราบคำตอบดีอยู่แล้ว โดยที่ไม่มีความจำเป็นต้องล่วงรู้ชีวิตก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาของพวกเขา ดาราหนังวัยผู้ใหญ่ออกมาปิดจ็อบในตอนไม่กี่นาทีได้ดีมากๆเลยเชียวจ้ะ กับประโยคที่ว่า “ผู้ใดมันจะไปทราบล่ะว่าอีก 30 ปีด้านหน้าโลกจะแปรไปขนาดนี้”
รู้หรือไม่ว่าท่ามกลางกระแสการระบาดของโควิด-19 ในรอบปีที่ผ่านมา ได้เกิดปรากฏการณ์ที่สำคัญขึ้นในวงการหนังไต้หวัน กับหนังฟอร์มเล็กๆ ที่กลายเป็นพลังขับเคลื่อนที่ยิ่งใหญ่ “Your Name Engraved Herein” (ชื่อที่สลักไว้ใต้หัวใจ) กลายเป็นหนังที่ทำเงินได้ถล่มทลายเหนือความหมาย มากกว่า 100 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน จึงกลายเป็นหนังม้ามืดที่ทำเงินสูงที่สุดอีกเรื่องในปีนี้ของที่นั่น